กรมการขนส่งทางบก เร่งดำเนินการตามมาตรการเพิ่มความปลอดภัยในรถโดยสารสาธารณะ !!! ประสานความร่วมมือผู้ประกอบการรถตู้โดยสารสาธารณะ ปรับปรุงแก้ไขจำนวนที่นั่งให้ไม่เกิน 13 ที่นั่ง มีช่องทางออกด้านท้ายตัวรถกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน ดีเดย์!!! 11 เมษายน 2560 เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดกับประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ และต่อเนื่องระยะยาว
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ตามมาตรการเพิ่มความปลอดภัยในรถโดยสารสาธารณะ คณะกรรมการจัดระเบียบรถโดยสารสาธารณะ ประกอบด้วยกรมการขนส่งทางบก, บริษัท ขนส่ง จำกัด, องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ พร้อมด้วยทหาร ตำรวจ จังหวัดและท้องถิ่น ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจ พร้อมกับขอความร่วมมือกับผู้ประกอบการมาตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2560 อย่างต่อเนื่อง ก่อนออกประกาศกรมการขนส่งทางบก เรื่อง การจัดวางที่นั่งรถตู้โดยสารสาธารณะ ตามมาตรการเพิ่มความปลอดภัยในรถโดยสารสาธารณะ พ.ศ. 2560 ประกาศในราชกิจจานุเบกษามีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2560 กำหนดรูปแบบการจัดวางที่นั่งภายในตัวรถให้มีความเหมาะสมและปลอดภัย โดยที่นั่งแถวหลังสุดต้องมีช่องทางเดิน ขนาดความกว้างไม่น้อยกว่า 20 เซนติเมตร เพื่อให้ผู้โดยสารใช้เป็นทางออกฉุกเฉินด้านท้าย สามารถเปิดออกจากภายในตัวรถได้ในกรณีที่มีเหตุจำเป็นหรือเกิดอุบัติเหตุหรือมีค้อนทุบกระจกเพิ่ม พร้อมมีข้อความว่า “ทางออกฉุกเฉิน” เป็นตัวอักษรภาษาไทยสีแดงสะท้อนแสงมีความสูงไม่น้อยกว่า 5 เซนติเมตร ติดอยู่เหนือบริเวณที่เปิดปิดประตู หรือบริเวณขอบประตูด้านบนทางออกฉุกเฉินให้สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ซึ่งในช่วงวันที่ 7 – 10 เมษายน 2560 จะเน้นการแนะนำ ขอความร่วมมือ และการตักเตือน กรมการขนส่งทางบกได้ลงพื้นที่ทุกสถานีขนส่งผู้โดยสาร ทุกแห่ง และสถานประกอบการทุกจังหวัด เพื่อ ประชาสัมพันธ์ขยายผลเข้มข้นต่อเนื่อง สร้างความเข้าใจกับผู้ประกอบการ พร้อมชี้แจงมาตรการการบังคับใช้กฎหมายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2560 เป็นต้นไป และเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและให้เกิดความปลอดภัยสูงสุดกับประชาชน ผู้ประกอบการต้องดำเนินการถอดหรือปรับปรุงที่นั่งได้ทันทีโดยไม่ต้องขออนุญาตก่อนดำเนินการ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่มีผลบังคับใช้แล้ว แต่ต้องนำรถเข้ารับการตรวจสภาพและแก้ไขรายการทางทะเบียนตามเงื่อนไขที่กำหนด คือ รถตู้โดยสารประเภทประจำทางในเส้นทางหมวด 2 (เส้นทางกรุงเทพ-ต่างจังหวัด) และหมวด 3 (เส้นทางระหว่างจังหวัด) ให้ดำเนินการภายในวันที่ 5 มิถุนายน 2560 รถตู้ในเส้นทางหมวด 1 (เส้นทางในเมือง) และหมวด 4 (เส้นทางภายในจังหวัด) ให้ดำเนินการภายในวันที่ 5 กรกฎาคม 2560 และรถตู้โดยสารประเภทไม่ประจำทาง (รถเช่าเหมา) ให้ดำเนินการภายในวันที่ 5 สิงหาคม 2560 ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกจะเริ่มบังคับใช้กฎหมาย จับ ปรับ ในอัตราเบื้องต้นก่อน ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2560 เป็นต้นไป
.
อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการยกระดับความปลอดภัย ไม่ให้เกิดความสูญเสียรุนแรงในการเดินทางด้วยรถตู้โดยสารสาธารณะตลอดช่วงเทศกาลสงกรานต์ต่อเนื่องระยะยาว แต่อย่างไรก็ตาม จะเน้นมาตรการเชิงป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเป็นสำคัญ โดยดำเนินการมาตรการ “สแกนรถโดยสาร” เข้มข้น จริงจัง ด้วยการตรวจสอบความพร้อมของรถทุกคันและพนักงานขับรถทุกคน ที่ทุกสถานีขนส่งผู้โดยสารและจุดจอดรถที่กำหนด รวม 212 แห่งทั่วประเทศ ตามรายการตรวจสอบที่กรมการขนส่งทางบกจัดทำขึ้น (Checklist) เช่น การติดตั้งระบบ GPS Tracking การติดตั้งเข็มขัดนิรภัยต้องมีครบทุกที่นั่งและสามารถใช้งานได้ จำนวนที่นั่งไม่เกินตามที่กำหนด มีช่องทางออกประตูฉุกเฉิน สภาพยางและล้อต้องอยู่ในสภาพปลอดภัย มีค้อนทุบกระจก ติดตั้งถังดับเพลิงครบถ้วน เป็นต้น ส่วนพนักงานขับรถต้องมีใบอนุญาตขับรถถูกต้อง สภาพร่างกายมีความพร้อม มีชั่วโมงการทำงานไม่เกินที่กฎหมายกำหนด ไร้สารเสพติดและแอลกอฮอล์เป็นศูนย์ 100% ทั้งนี้ หากพบว่าสภาพรถหรือผู้ขับรถไม่พร้อมเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อผู้โดยสาร “สั่งพ่นห้ามใช้รถ/ห้ามปฏิบัติหน้าที่ขับรถ ทันที” พร้อมลงโทษขั้นสูงสุดทุกกรณีความผิดทั้งผู้ประกอบการและผู้ขับรถ พบรถโดยสารสาธารณะไม่ปลอดภัย เอาเปรียบผู้โดยสาร แจ้ง 1584 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ที่มา.. กรมการขนส่งทางบก PR.DLT.News