ลักษณะทั่วไป
ต้น : เป็นพรรณไม้ล้มลุก มีหัวอยู่ใต้ดิน หัวจะเล็กเป็นรูปเกือบจะกลม วัดผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ ๑.๒ ซม.
ใบ : จะมีลักษณะเป็นแฉกกลางรูปไข่ปลายแหลม ใบเป็นสีเขียวมีลาย หรือจุดประสีม่วง ก้านใบมีความยาวประมาณ ๓๗.๕ ซม. ใบจะเป็นหยัก ๓ แฉก มีความกว้างและยาวประมาณ ๒๕-๓๐ ซม.
ดอก : จะออกเป็นช่อ เป็นแท่งยาว ช่อดอกมีกาบหุ้มยาวประมาณ ๒๓ ซม. กาบจะกว้างประมาณ ๗.๕ ซม. ก้านช่อดอกจะเป็นสีเลือดนกปนน้ำตาล หรือสีแดงเข้ม ดอกเพศเมียจะอยู่ตรงโคนแท่ง เหนืออกเพศเมียจะเป็นดอกฝ่อ เป็นสีขาวถัดไปเป็นที่ว่าง เหนือที่ว่างนั้นจะเป็นดอกเพศผู้ เป็นสีชมพู เมื่อดอกบานเต็มที่จะมีกลิ่นเหม็น
ผล : ผลสดจะมีลักษณะเป็นรูปขอบขนาน ภายในจะมีเมล็ดอยู่
การขยายพันธุ์ : โดยการแยกหน่อ
ส่วนที่ใช้ : หัว กาบ ก้านใบ และราก ใช้เป็นยา
สรรพคุณ :
– หัว ใช้เป็นยากัดเถาดานในท้อง กัดฝ้าหนองสมานแผลหรือใช้หุงเป็นน้ำมันใส่แผล และใช้ปิ้งไฟใช้กินได้
– กาบ นำไปหั่นให้ละเอียด ใช้ดองกินเป็นอาหารผักได้
– ก้านใบ ลอกเปลือกออกใช้แกงส้มแบบเดียวกับแกงบอนได้
– ราก จะมีฤทธิ์เป็นยากระตุ้น รักษาโรคริดสีดวงทวาร ใช้กินกับกล้วยรักษาโรคปวดท้อง หรือใช้ทาภายนอกและกินรักษาพิษงูกัดได้